มีรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียได้จำกัดการส่งออกก๊าซมีตระกูลรวมทั้งนีออนซึ่งเป็นส่วนผสมหลักที่ใช้ในการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานชิปทั่วโลก และทำให้ภาวะคอขวดด้านอุปทานในตลาดรุนแรงขึ้น
ข้อจำกัดดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 5 ที่สหภาพยุโรปกำหนดในเดือนเมษายน RT รายงานเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน โดยอ้างถึงกฤษฎีกาของรัฐบาลที่ระบุว่าการส่งออกสินค้าชั้นสูงและอื่นๆ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จะต้องขึ้นอยู่กับการอนุมัติของมอสโกตามคำแนะนำของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า
RT รายงานว่าก๊าซเฉื่อยเช่นนีออน, อาร์กอน,ซีนอนและอื่นๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ RT รายงานโดยอ้างอิงหนังสือพิมพ์ Izvestia ว่า รัสเซียเป็นผู้จัดหานีออนมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการใช้ทั่วโลก
รายงานการวิจัยของ China Securities ระบุว่าข้อจำกัดเหล่านี้อาจทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิปในตลาดโลกรุนแรงขึ้น และราคาสินค้าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก ผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีต่อห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์กำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยกลุ่มวัตถุดิบต้นน้ำต้องแบกรับภาระหนักที่สุด
เนื่องจากจีนเป็นผู้บริโภคชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกและพึ่งพาชิปนำเข้าเป็นอย่างมาก ข้อจำกัดดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ เซียง ลี่กัง ผู้อำนวยการใหญ่ของ Information Consumption Alliance ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปักกิ่ง กล่าวกับ Global Times เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
เซียงกล่าวว่าจีนนำเข้าชิปมูลค่าราว 300,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 ซึ่งใช้ในการผลิตยานยนต์ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ
รายงานของ China Securities ระบุว่านีออนฮีเลียมและก๊าซเฉื่อยอื่นๆ เป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้สำหรับการผลิตสารกึ่งตัวนำ ตัวอย่างเช่น นีออนมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงและรักษาเสถียรภาพของวงจรแกะสลักและกระบวนการผลิตชิป
ก่อนหน้านี้ ซัพพลายเออร์ของยูเครน Ingas และ Cryoin ซึ่งจัดหาประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโลกนีออนก๊าซสำหรับการใช้กับสารกึ่งตัวนำ หยุดการผลิตเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และราคาก๊าซนีออนและซีนอนทั่วโลกก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลกระทบที่ชัดเจนต่อวิสาหกิจและอุตสาหกรรมของจีนนั้น เซียงกล่าวเสริมว่าจะขึ้นอยู่กับกระบวนการนำชิปแต่ละชนิดไปใช้งานอย่างละเอียด ภาคส่วนที่พึ่งพาชิปนำเข้าสูงอาจได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า ในขณะที่ผลกระทบจะน้อยกว่าต่ออุตสาหกรรมที่นำชิปที่ผลิตโดยบริษัทจีน เช่น SMIC มาใช้
เวลาโพสต์: 9 มิ.ย. 2565