ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2568 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันและโรงพยาบาลบริกแฮมและสตรี (โรงพยาบาลสอนของโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด) เปิดเผยวิธีการรักษาโรคอัลไซเมอร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือการสูดดมซีนอนก๊าซซึ่งไม่เพียงแต่ยับยั้งการอักเสบของระบบประสาทและลดการฝ่อของสมอง แต่ยังเพิ่มสถานะการป้องกันของเซลล์ประสาทอีกด้วย
ซีนอนและการปกป้องระบบประสาท
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคทางระบบประสาทเสื่อมที่พบบ่อยที่สุดในมนุษย์ และเชื่อกันว่าสาเหตุของโรคเกี่ยวข้องกับการสะสมของโปรตีนเทาและโปรตีนเบตาอะไมลอยด์ในสมอง แม้ว่าจะมียาที่พยายามกำจัดโปรตีนที่เป็นพิษเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้ผลในการชะลอการลุกลามของโรค ดังนั้น จึงยังไม่สามารถเข้าใจสาเหตุของโรคและการรักษาได้อย่างถ่องแท้
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการสูดดมซีนอนสามารถผ่านทะลุด่านกั้นเลือดสมองและปรับปรุงสถานะของหนูที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ภายใต้สภาวะห้องปฏิบัติการได้อย่างมีนัยสำคัญการทดลองแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นหนูที่มีการสะสมโปรตีนเทา และอีกกลุ่มหนึ่งมีการสะสมโปรตีนเบตาอะไมลอยด์ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าซีนอนไม่เพียงแต่ทำให้หนูมีกิจกรรมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการตอบสนองเชิงป้องกันของไมโครเกลีย ซึ่งจำเป็นต่อการกำจัดโปรตีนเทาและเบตาอะไมลอยด์
การค้นพบใหม่นี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่มาก แสดงให้เห็นว่าสามารถผลิตผลการปกป้องระบบประสาทได้เพียงแค่สูดดมก๊าซเฉื่อยเข้าไป ข้อจำกัดสำคัญประการหนึ่งในสาขาการวิจัยและการรักษาโรคอัลไซเมอร์คือ การออกแบบยาที่สามารถผ่านด่านกั้นเลือด-สมองได้นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งซีนอนสามารถทำสิ่งนี้ได้
การประยุกต์ใช้ซีนอนทางการแพทย์อื่น ๆ
1. ยาสลบและยาแก้ปวด: เป็นก๊าซยาสลบที่เหมาะสมซีนอนถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากการกระตุ้นและการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว มีเสถียรภาพทางหลอดเลือดและหัวใจที่ดี และมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่ำ
2. ผลการปกป้องระบบประสาท: นอกเหนือจากผลการบำบัดโรคอัลไซเมอร์ที่อาจกล่าวได้ข้างต้นแล้ว ซีนอนยังได้รับการศึกษาวิจัยว่าสามารถลดความเสียหายของสมองที่เกิดจากภาวะสมองขาดออกซิเจนและขาดเลือดในทารกแรกเกิด (HIE) ได้อีกด้วย
3. การปลูกถ่ายอวัยวะและการป้องกัน:ซีนอนอาจช่วยปกป้องอวัยวะของผู้บริจาคจากการบาดเจ็บจากการขาดเลือดและการคืนเลือด ซึ่งมีความสำคัญมากในการปรับปรุงอัตราความสำเร็จของการปลูกถ่าย
4. การทำให้ไวต่อการฉายรังสี: การศึกษาเบื้องต้นบางกรณีแสดงให้เห็นว่าซีนอนอาจช่วยเพิ่มความไวของเนื้องอกต่อการฉายรังสี ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ในการรักษามะเร็ง
เวลาโพสต์: 13 มี.ค. 2568






